ยุคนี้สมัยนี้ใคร ๆ ก็ต้องพึ่งพาตัวเอง ดูแลตัวเอง และนี่ก็เป็นก้าวสำคัญ ของการเข้าสู่อิสระอย่างแท้จริง
เราขอแสดงความยินดีกับ คุณทั้งหลายที่พึ่งสอบผ่าน และหากเพิ่งได้รับใบขับขี่รถยนต์เป็นที่เรียบร้อย ถึงอย่างไรสิ่งที่กล่าวมาพึ่งเริ่มต้น เพราะทุกการขับขี่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวังต่อส่วนรวมของผู้ใช้รถ ใช้ถนนร่วมกัน และสิ่งสำคัญของการขับขี่อย่างปลอดภัย อย่าลืมเป็นอันขาดว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณ อยู่หลังพวงมาลัย จำไว้ว่าไม่ได้กระทบแค่ต่อตัวเรา แต่ยังกระทบไปถึงผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
ฉะนั้น เราจะขอรวบรวมข้อมูล เทคนิคในการขับรถให้ปลอดภัยและเคล็ดลับต่างๆ ที่จะช่วยให้มือใหม่หัดขับอย่างคุณ มีเทคนิคในการขับรถให้ปลอดภัยด้วยความสนุก และไม่ประมาท อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญของการขับขี่อีกข้อคือ การบำรุงดูแลรักษารถยนต์ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพื่อเป็นการป้องกัน และลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่
1.ศึกษาและเคารพกฎจราจร
ทำความเข้าใจกฎจราจรและสัญญาณจราจรที่สำคัญ เพราะนี่คือเหตุผลของการสอบใบขับขี่ ที่จะต้องผ่านการอบรม สอบให้ผ่านทั้ง
“ ภาคทฤษฎี ” และ “ภาคปฏิบัติ ” เรียนรู้ทุกเครื่องหมายถนน เครื่องหมายจราจร รวมทั้งป้ายบอกทางทั้งหมด กฎข้อบังคับที่ผู้ขับขี่ต้องมี การขับขี่อย่างปลอดภัย ทุกคนต้องเข้าใจและปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด
2.ความคุมความเร็ว ขับขี่ให้ช้าลง
การขับขี่ด้วยความเร็วเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงหลักของการเกิดอุบัติเหตุ โดยทั่วไปยิ่งความเร็วมากขึ้น เวลาที่เราจะใช้ในการหยุดและควบคุมรถก็จะน้อยลงไปด้วย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เราอาจไม่สามารถควบคุมรถ และหลีกเลี่ยงการปะทะ การบาดเจ็บได้อย่างแน่นอน
3.หมั่นดูแลตรวจ รักษารถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
การหมั่นดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็กระยะทางสภาพเครื่องยนต์ ตรวจสอบลม ตรวจเช็กผ้าเบรก น้ำยาหล่อเย็น น้ำกลั่น แบตเตอรี่ ไปจนถึงการเติมน้ำมัน ไม่ให้ระดับมาตรวัด ใกล้ขีด น้ำมัน “หมดถัง” จนเกินไป
4.หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะขับ
การใช้โทรศัพท์ขณะขับรถมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ควรปิดการใช้งาน หรือใช้โทรศัพท์เล่นมือถือ เพราะขณะขับรถต้องใช้สายตามองที่ถนนตลอดเวลา ทำให้เราเสียสมาธิในการขับขี่ จึงควร งดตอบแชต งดโทร งดกิน หรือหาของ หรือแม้แต่การหันไปคุยกับเพื่อนๆ ที่เบาะหลัง เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หรือเพียงแค่เสี้ยววินาที ซึ่งถ้าเรามีสติไม่ว่อกแว่ก จะสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้มากขึ้น
5.คาดเข็มขัดนิรภัย การใส่เข็มขัดนิรภัย (seatbelt) เป็นมาตรการที่สำคัญและมีผลในการป้องกันอุบัติเหตุรถยนต์ ไม่ว่าเรา จะขับรถเพียงสั้น ๆ หรือไปไหนก็ตาม เราควรใส่เข็มขัดทุกครั้ง และทุกคนในรถ ไม่ว่าจะเป็นคนขับหรือผู้โดยสารเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
6.ปรับอุปกรณ์ให้เข้าที่และเรียนรู้อุปกรณ์ควบคุม
เพื่อให้มีการขับขี่ที่ดี การปรับที่นั่งในรถเป็น ปรับที่นั่งให้ถูกต้อง เพื่อให้เรามีความสะดวกสบายและควบคุมที่ดี และต้องหมั่นฝึกการใช้พวงมาลัยและเบรก ทดลองหมุนพวงมาลัยทางซ้ายและทางขวา และทดสอบระบบเบรก ทำการรู้จักอุปกรณ์ควบคุม เรียนรู้วิธีใช้เป็นที่เรียบร้อยกับหน้าปัดน้ำฝน เบรก มือ ไฟสัญญาณ และอื่น ๆ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ
7.เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รถเสีย หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ เราควรเตรียมเอกสารที่เกี่ยวกับรถยนต์ เช่นคู่มือเอกสารประกันรถ เบอร์โทรติดต่อฉุกเฉิน หรือยางอะไหล่ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว เตรียม ให้พร้อมไว้ในรถเสมอ โดยเฉพาะอุปกรณ์ช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน เพื่อใช้ขณะที่รอการช่วยเหลือ
8.อย่าขับรถจี้คันหน้า
การขับรถจี้รถคันหน้ามากไป หรือขับใกล้เกินไป เป็นหนึ่งในสาเหตุต้นๆ ในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนท้าย เราควรทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 20-30 เมตร ขึ้นอยู่กับการขับด้วยอัตราเร็ว 10 กม./ ชม. ควรจะเว้นระยะห่างไว้ 5 เมตร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวิ่งด้วยอัตราเร็ว 60 กม./ชม. จะเว้นระยะห่างไว้ 30 เมตร
9.ตรวจสอบสภาพอากาศ
การขับรถในสภาพอากาศ ฝน และ ลม หมอกหนา ต่างเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงสูง และอันตรายในการขับขี่ หากพื้นผิวถนนเปียก ฝนตก เราต้องเปิดไฟหน้ารถ ชะลอความเร็วของรถ รวมทั้งเพิ่มระยะห่างกับรถคันหน้า เพราะสภาพถนนเปียกต้องการระยะเบรกที่มากขึ้นกว่าเดิม และหากต้องเจอสถานการณ์เกินควบคุม ให้หาที่จอดที่ปลอดภัยจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
10.อย่าขับรถในสภาพที่ไม่พร้อม
หลีกเลี่ยงการดื่ม อย่าขับรถในสภาพที่ไม่พร้อม ไม่ว่าจะด้วยความมึนเมา ยาเสพติด หรือ นอนไม่เพียงพอ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ความสามารถในการขับรถลดลงมาก และเป็นอันตราย การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้เรา มีประสบการณ์ขับรถที่ปลอดภัยและเพลิดเพลินไปกับทริปของเรา การมีสติ ระมัดระวัง และการทำซ้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราเป็นคนขับที่ดีและปลอดภัยตลอดการเดินทาง
1251
25 เม.ย. 2568, 15:12
ใครทำใบขับขี่ไทยแบบ Smart card เรียบร้อยแล้วเราสามารถนำไปใช้ยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนได้ถึง 10 ประเทศ
โดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่สากล เนื่องจากเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศอาเซียนในการขับขี่รถยนต์ข้ามแดนได้ (บริษัท ไอดีไดรฟ์ จำกัด)
ใบอนุญาตขับขี่แบบ Smart card สามารถใช้ขับขี่รถยนตร์ได้ทั้ง 10 ประเทศ
ในกลุ่มประเทศ AEC มีการทำอนุสัญญาข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับใบขับขี่ภายในซึ่งกันและกันทั้งหมด 10 ประเทศ ตามข้อตกลงที่ได้ทำไว้ อนุญาตให้ใช้ใบขับขี่แบบใหม่ของประเทศไทย หรือที่เรียกว่า “ใบอนุญาตขับรถ Smart card” ที่มีแถบแม่เหล็กและเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่รองรับการจัดเก็บข้อมูลการขับขี่ รองรับการติดตามด้วย GPS Tracking มีความทันสมัยและน่าเชื่อถือ ทำให้ “ใบอนุญาตขับรถ Smart card” แบบใหม่นี้เป็นที่ยอมรับกันในกลุ่มประเทศ AEC และสามารถใช้แทนใบขับขี่สากลได้ แต่บางประเทศอาจจะต้องมีการใช้เอกสารอื่นๆ
ประเทศสมาชิกอาเซียนที่รับรองใบขับขี่ประเภทสามสามารถขับรถด้วยใบขับขี่ประเภทนี้ได้ดังนี้:
1.ประเทศไทย 2.มาเลเซีย 3.สิงคโปร์ 4.ฟิลิปปินส์ 5.อินโดนีเซีย
6.บรูไน 7.กัมพูชา 8.ลาว 9.เวียดนาม 10.เมียนมาร์ (พม่า)
เนื่องจากเป็นหนึ่งในข้อตกลงระหว่างประเทศเทศสมาชิกอาเซียน โดยบัตร Smart card มีการบันทึกข้อมูลเป็นภาษาไทยและอังกฤษ อีกทั้ง รถที่จดทะเบียนในประเทศไทย ก็สามารถใช้ได้ใน 10 ประเทศทั่วอาเซียนเช่นเดียวกันกับใบอนุญาต แต่การนำไปใช้ประเทศอื่น จะต้องขอรับป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษสำหรับการนำรถไปใช้ในต่างประเทศ
ก่อนขับรถในต่างประเทศ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
เอกสารการยื่นเอกสารขอพาสปอร์ตรถ และ แผ่นป้ายทะเบียนรถที่เป็นภาษาอังกฤษ
สำเนารับรองหนังสือจดทะเบียนรถ
สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (รถติดไฟแนนซ์)
หนังสือบมอบอำนาจ (กรณีไม่ได้ดำเนินการด้วยตัวเอง)
สำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
เอกสารสำหรับการขับรถข้ามประเทศ
ยื่นเรื่องขอเอกสารสำหรับรถได้ที่ขนส่งทุกจังหวัด
หนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ตรถ
เครื่องหมายแสดงประเทศ (สติกเกอร์ตัว T)
หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถ เพื่อการใช้รถนอกราชอาณาจักร
แผ่นป้ายทะเบียนรถภาษาอังกฤษ
หนังสือรับรองการจดทะเบียนฉบับภาษาอังกฤษ
เอกสารสำหรับคนขับนอกประเทศ
ในกรณี ขับขี่ในประเทศ AEC : สามารถใช้ใบอนุญาตขับขี่ไทยที่มีอยู่ได้เลย
ในกรณี ขับขี่นอกประเทศ AEC : จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่สากล สามารถยื่นเรื่องติดต่อได้ที่กรมการขนส่งทางบกจังหวัด และต้องต่ออายุปีต่อปี เช่นเดียวกับพาสปอร์ตรถ
เอกสารที่ต้องยื่นออกจากชายแดนไทย
ต.ม. 2 รายการเกี่ยวกับยานพาหนะขาเข้าและขาออก
ต.ม. 3 บัญชีคนโดยสาร (สำเนาทะเบียนรถพร้อมหน้าเสียภาษี, สำเนาใบขับขี่ และเอกสารของผู้นำรถออก)
หนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ
เอกสารยื่นเข้าชายแดนประเทศปลายทาง
หนังสือขออนุญาตใช้รถในพื้นที่ของแต่ละประเทศ และในบางประเทศต้องดำเนินเอกสารล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง
ซื้อประกันภัยบุคคลที่ 3 ของประเทศนั้น ซึ่งสามารถซื้อได้ที่ด่านตรวจชายแดนเลย
รูปแบบใบขับขี่สมาร์ทการ์ดที่ใช้ในกลุ่มอาเซียนต้องมีลักษณะดังนี้ ด้านหน้าบัตรจะต้องมีภาพธงชาติไทย มีรูปตราสัญลักษณ์กรมการขนส่งทางบก เป็นลายน้ำ 7 สี และมีรูปกราฟิกตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดของแต่ละจังหวัด และ มีสติ๊กเกอร์ภาพสะท้อนแสง พร้อมระบบป้องกันการปลอมแปลงซึ่งซ่อนอยู่ในบัตร มีข้อมูลของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถที่เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ภาพถ่ายของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถเป็นภาพถ่ายจริง ณ วันที่ ทำใบอนุญาตขับรถ พร้อมระบุจังหวัดที่ออกใบอนุญาตขับรถ ส่วนด้านหลังบัตรจะมีแถบแม่เหล็กเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ มีการบันทึกข้อจำกัดในการใช้ใบอนุญาตขับรถ มีภาพอธิบายประเภทของรถที่ได้รับอนุญาตตามชนิดของใบอนุญาตขับรถ มีลายเซ็นของนายทะเบียนจังหวัดที่ออกใบอนุญาตขับรถ และระบุที่อยู่ของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถตามข้อมูลของทะเบียนราษฎร
การยอมรับใบขับขี่ประเภทสามต่างกันขึ้นอาจมีข้อกำหนดและเงื่อนไขเฉพาะตามแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน. เราควรตรวจสอบกับหน่วยงานจราจรหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบสำหรับการขับรถในประเทศที่เราต้องการเดินทางเพื่อทราบข้อมูลที่ถูกต้องและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ใบขับขี่ประเภทสามในประเทศนั้น.
1212
25 เม.ย. 2568, 23:25
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ปัจจุบัน “โดรน” ได้เข้ามามีบทบาทในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นวงการการถ่ายภาพ วงการภาพยนต์ วงการสื่อมิเดีย และด้านภูมิสารสนเทศ หรือแม้แต่กระทั้ง การใช้งานในภาคเกษตรกรรม ซึ่งโดรนมีขนาดตั้งแต่วางบนฝ่ามือได้ มีน้ำหนักไม่กี่ร้อยกรัม ไปจนถึงมีความยาวเป็นเมตร น้ำหนักหลายสิบกิโลกรัม โดรนมีลักษณะขนาดเล็กได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกๆ แวดวงต่าง ๆ ด้วยขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาง่าย ราคาไม่แพง แต่สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายในมุมสูงแปลกตา ที่เราไม่สามารถถ่ายได้เลยหากแค่ยืนอยู่บนพื้นดินดังนั้น โดรนถ่ายภาพ จึงได้รับความนิยมมากในทุกประเภทของกิจกรรม ซึ่งรวมถึงการท่องเที่ยว,การสร้างสรรค์,งานธุรกิจ,และการตรวจสอบทางสิ่งแวดล้อม
ลักษณะการใช้โดรนถ่ายภาพ จะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีผู้ควบคุมบินอยู่บนเครื่องโดยตรง แต่โดรนมักจะถูกใช้เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอจากมุมมองที่สูง โดรนถ่ายภาพมีประโยชน์ในหลายงาน เช่น การวิเคราะห์พื้นที่การตรวจสอบสภาพอากาศ และการทำงานที่ต้องการสำรวจในที่ที่ทำได้ยากตัวบุคคลเข้าไปไม่ถึง เรามาทำความรู้จักโดรนถ่ายภาพเเบื้องต้นดังนี้
การควบคุมโดรนและกล้องสามารถทำได้ผ่านรีโมทคอนโทรลหรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
โดรนถ่ายภาพมักมีกล้องที่ติดตั้งอยู่ที่ส่วนหนึ่งของตัวโดรน กล้องบางรุ่นสามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้ถึง 4k
ความละเอียดของภาพขึ้นอยู่กับความสามารถของกล้องที่ติดตั้งบางโมเดลมีความละเอียดสูงที่สามารถถ่ายภาพแบบ RAW ได้
กล้องโดรนมีการปรับแต่งกล้องในระหว่างการบิน เช่น การปรับมุมกล้องโดรนมีความสามารถในการบินไปยังที่สนใจเพื่อให้ได้ภาพมุมต่าง ๆ
ระบบนำทางโดรนถ่ายภาพมักจะใช้ GPS เพื่อความแม่นยำในการนำทางและบิน ระบบนำทางนี้ช่วยให้โดรนสามารถทำการบินและกลับบ้านได้โดยอัตโนมัติ
บางโดรนมีโหมดต่าง ๆ เช่น โหมดอัตโนมัติ,โหมดตามเส้นทาง,หรือโหมดกล้องควบคุม
ระยะเวลาการบินขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และเวลาบินจะต่างกันตามแต่ละรุ่น
ควรปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้โดรน การบินในพื้นที่ที่ห้ามหรือที่อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้คนควรถูกปฏิเสธ
ข้อควรปฏิบัติ ที่ช่วยนำโดรนขึ้นบินอย่างปลอดภัย
การนำโดรนขึ้นบินอย่างปลอดภัยมีความสำคัญมาก เราควรคำนึงเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม เพื่อป้องกันทรัพย์สิน อุบัติเหตุ และรักษาความปลอดภัยของบุคคล เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องศึกษาหาข้อมูลดังนี้
อ่านคู่มือและกฎระเบียบ ทำความเข้าใจคู่มือการใช้งานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการใช้โดรนในพื้นที่ของคุณ แต่ละท้องที่อาจมีกฎระเบียบที่แตกต่างกัน
ตรวจสอบโดรนก่อนใช้งาน เช็คว่าทุกอุปกรณ์ติดตั้งอยู่ในสภาพดีและทำงานถูกต้อง
ทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ รักษาซอฟต์แวร์ของโดรนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ เพื่อรับการปรับปรุงที่สำคัญและการแก้ไขปัญหาความปลอดภัย
บินในพื้นที่ที่อนุญาต ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบท้องถิ่นเกี่ยวกับการบินโดรน และไม่บินในพื้นที่ที่มีข้อห้ามหรือจำกัด
ระวังความปลอดภัยของผู้อื่น ไม่ให้โดรนบินใกล้กับผู้อื่นหรือสิ่งของที่อาจเป็นอันตราย ควรเฝ้าระวังและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่อยู่ในสถานที่ที่บิน.
การบิน ไม่ควรบินในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม เช่น ลมแรง,ฝนตก,หรือหมอก
ไม่ควรบินในพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ควรทำการซ้อมการใช้งานโดรนในที่ปลอดภัยก่อนที่จะใช้งานจริง, เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
2047
26 เม.ย. 2568, 08:50
ภาพลวงตา หรือ Mirages เป็นปรากฏการณ์ทางท้องถนนที่เกิดขึ้นเมื่อแสงแดดที่มีการหักของแสง ทำให้มีการโค้งแสงที่ทำให้วัตถุดูเป็นรูปปั้นหรือตำแหน่งที่ไม่จริง ดังนั้นเวลาขับรถไปไหนก็จะเห็นภาพลวงตา เหมือนแอ่งน้ำบนถนน
หลายคนอาจยังไม่รู้ ! ว่าภาพลวงตาบนถนนที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลต่อการขับขี่ได้เพราะเราอาจเข้าใจผิดว่าข้างหน้าเป็นทางที่มีแอ่งน้ำ จนทำให้เสียสมาธิขณะขับรถ หรือหักหลบกระทันหัน โดยเฉพาะมือใหม่ทั้งหลาย และปัญหาอีกมุมหนึ่งของการเกิดปรากฏการณ์ภาพลวงตาบนถนนนั้น บ่งบอกถึงสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป ที่จะส่งผลให้สายตาพร่า เกิดอาการล้า รู้สึกแสบตา และเกิดอาการเพลียได้ ซึ่งส่งผลให้
ผู้ขับขี่ตัดสินใจผิดพลาดได้ แต่วันนี้ทาง (บริษัท ไอดีไดรฟ์ จำกัด) จะมาแนะนำบอกเคล็ดลับ วิธีการรับมือเมื่อเจอเหตุการณ์ภาพลวงตา มาฝากเพื่อมิให้เกิดอันตรายได้
สวมแว่นกันแดด หรือ ใช้ที่บังแดดช่วยกรองแสงแดด ไม่ให้สายตาพร่ามัว
พยายามมองเส้นทางหลายระยะ อย่าจดจ่อที่จุดเดียว
เปลี่ยนจุดโฟกัสของสายตา
ถ้าตาแห้งให้หยอดตาด้วยน้ำตาเทียม
ถ้าตาล้าให้จอดพักรถ พักสายตาอย่างน้อย 15 นาที
ดังนั้นในระยะนี้นอกจากจะขับรถอย่างระวังในหน้าฝนแล้ว เวลาที่แดดออกจัด ๆ ก็ระวังการเกิดมิราจควบคู่กันไปด้วย เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยในทุกเส้นทางของทุกคนด้วยความห่วงใยจาก (บริษัท ไอดีไดรฟ์ จำกัด)
676
25 เม.ย. 2568, 15:11
Eligibility Requirements for Foreigners:
1. Foreigners are required to have a valid passport, non-immigrant visa, or work permit. The visa or work permit must have at least 3 months remaining, while the passport should have at least 6 months of validity.
2. A letter of residence or address certified by the Immigration Bureau or your embassy. A copy of your work permit (applies to expats or foreign residents).
3. A medical certificate, issued at any clinic or hospital and dated within 30 days of the application.
4. Two photos without wearing a hat and glasses (Straight face).
Tips for Passing the Written and Driving Exams
Tip 1: Study for the Written Examination.
The written examination includes traffic rules, regulations, and road signs in Thailand. Foreigners must study the helpful material and practice answering multiple-choice questions to succeed. The Department of Land Transport offers study materials on its website and other online resources.
Tip 2: Preparation for the Practical Driving Examination
A practical driving exam is an evaluation of the applicant’s driving abilities on a designated course. Before taking this exam, practicing driving in related courses is recommended. In addition, candidates must be familiar with the vehicle’s controls and comfortable with the car they will use for the exam.
Tip 3: Understand Thai Traffic Rules and Regulations
To pass the exams, you must know Thailand’s traffic rules and regulations. In Thailand, driving is illegal while under the influence of alcohol, and obligatory to wear a seatbelt when driving. Before taking the examination, applicants must comply with relevant rules and regulations.
Tip 4: Observe road signs and symbols
In Thai traffic, road signs and symbols play a vital role, and it is essential to comprehend their meanings in order to pass the written exam. Applicants should practice recognizing and comprehending the different traffic signs and symbols they may see on Thai roadways.
Tip 5: Be confident and attentive throughout the test
It is important to approach both examinations with confidence and concentration. Applicants should maintain composure and concentration throughout examinations, pay strict attention to instructions, and adhere to them precisely. Also, being polite to the examiner and other test-takers is crucial.
479
26 เม.ย. 2568, 04:09