ทุกการเดินทางเราพร้อมดูแลคุณกับบริษัทไอดีไดรฟ์จำกัด
อุบัติเหตุทางถนนที่เพิ่มมากขึ้นหลังจากการเปิดประเทศ ส่วนใหญ่ยังคงเกิดขึ้นกับพวกเมาแล้วขับ รถจักรยานยนต์กลายเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ตามด้วยรถยนต์ ที่ไม่ได้เกิดแค่บนถนนไฮเวย์ หรือบนทางหลวงเท่านั้น บริเวณชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่น้อย คนเดินเท้า จักรยาน คนข้ามถนน คนขายของที่อยู่ริมถนน เมื่อขับผ่านเขตชุมชนนักขับส่วนใหญ่จะมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เช่น ลดความเร็ว ไม่ขับจี้ท้ายหรือเปลี่ยนช่องทางไปมาด้วยความเร็ว แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถใช้ถนนบางคนที่สติไม่ได้จดจ่ออยู่กับการขับรถ การขาดความระวังแม้แค่แวบเดียวก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะการขับในเขตเมือง การขับรถในเขตชุมชนนั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่กลับมีอันตรายมากกว่าการขับรถบนทางหลวง ต้องใช้สมาธิมากกว่าเดิม ใจร้อน ไม่มีสติ ขาดยั้งคิด
อุบัติเหตุนั้นเพิ่มมากขึ้น การสังเกต หรือคาดการณ์ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อน เครื่องหมายหรือป้ายจราจรก็เยอะ ผู้คนที่สัญจรไปมาทั้งบนทางเท้าและบนถนน ไม่เห็นป้ายบอกเขตจำกัด ความเร็ว หรือเขตโรงเรียน การออกตัว หรือหยุดรถในเขตเมือง โดยขาดความระมัดระวัง อาจหมายถึงอุบัติเหตุ แต่ละถนน แต่ละแยก แต่ละซอย ล้วนเป็นจุดอันตราย
เขตอันตราย ที่อาจไร้ความระมัดระวัง การเลี้ยวกลับรถบริเวณทางแยกทางร่วม ไม่ว่าจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือแม้แต่การขับยูเทิร์น สิ่งที่ต้องระวังก็คือรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือรถพ่วง บางคันอาจกำลังขับคร่อมเลนเมื่อคุณต้องการการเลี้ยวที่ปลอดภัยคือ ต้องเริ่มให้สัญญาณก่อนการเลี้ยวล่วงหน้า อยู่ในช่องทางที่จะเลี้ยวอย่างถูกต้อง ไม่ขับคร่อมเส้นแบ่งช่องทางก่อนการเลี้ยว
ขับโดยทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้าใช้ความเร็วต่ำ เพื่อจะได้มีพื้นที่ในการมองและพร้อมที่จะหลบ หรือเบรกให้ทัน ใช้เสียงแตรเตือนเมื่อไม่แน่ใจว่าเขาจะเปิดประตูออกมาหรือไม่เพื่อระวัง เนื่องจากรูปแบบของอุบัติเหตุนั้นแตกต่างกันออกไปตาม สถานที่ด้วยค่ะ
สาระดี มีมาฝาก จาก ศูนย์ตรวจสภาพรถไอดีสารคาม โดย บริษัทไอดีไดรฟ์ จำกัด
นำมาฝากสำหรับทุกท่านนะคะ หากอ่านแล้วข่าวสารนี้ได้รับความรู้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ ติดตามเป็นกำลังใจด้วยนะคะ ด้วยความห่วงใย จากศูนย์ตรวจสภาพรถไอดีไดรฟ์ ขอขอบคุณค่ะ
โทร. 043-020-512, 063-506-5577 ,093-479-9747
642
25 เม.ย. 2568, 17:40
ใบขับขี่ช่วยให้คุณรับรองตัวตนและยืนยันสิทธิในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นเอกสารที่อนุญาตให้คุณขับรถในประเทศที่คุณอาศัยอยู่ หรือประเทศที่คุณต้องการขับรถในนั้น มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้มีความจำเป็นต้องมีใบขับขี่ ดังนี้...
เรื่องความปลอดภัย การมีใบขับขี่แสดงถึงความสามารถในการขับรถของคุณ ซึ่งได้รับการฝึกฝนและทดสอบในเรื่องของกฎและความปลอดภัยทางถนน มีใบขับขี่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยสำหรับคุณและผู้อื่น
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การมีใบขับขี่ช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการขับรถ หากคุณขับรถโดยไม่มีใบขับขี่หรือใบขับขี่หมดอายุ คุณอาจต้องเสียค่าปรับ ถูกยึดใบขับขี่ หรือถูกตัดสิทธิในการขับรถชั่วคราวหรือถาวร การมีใบขับขี่ช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
ได้รับประโยชน์จากประกันภัยรถยนต์ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ การมีใบขับขี่เป็นเงื่อนไขเพื่อที่จะได้รับการประกันภัยจากบริษัทประกัน การมีประกันภัยรถยนต์ช่วยให้คุณปกป้องตัวเองและรถของคุณจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
การเดินทางต่างประเทศ หากคุณต้องการขับรถในประเทศอื่น ๆ การมีใบขับขี่ที่ถูกต้องเป็นเอกสารสำคัญที่จำเป็น เพื่อให้คุณสามารถขับรถตามกฎหมายและประกอบกิจการในประเทศนั้นได้
สิทธิ์ในการทำงาน ในหลาย ๆ อาชีพ การมีใบขับขี่เป็นเงื่อนไขเพื่อที่จะสมัครงานหรือได้รับตำแหน่งบางอย่าง เช่น งานขับรถบรรทุก หรือ งานบริการขนส่ง
การเช่ารถ หากคุณต้องการเช่ารถ บริษัทเช่ารถอาจต้องการให้คุณแสดงใบขับขี่เพื่อยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการขับรถ
ความสะดวกในการเดินทาง ในกรณีที่มีด่านตรวจขันวินัยจราจร หากเรามีใบขับขี่จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางด้วยรถส่วนตัวได้ในเวลาที่คุณต้องการ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง
สรุปคือ การมีใบขับขี่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการขับรถอย่างถูกต้องและปลอดภัย ช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎระเบียบ ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างความไว้วางใจและเชื่อมั่นในสิทธิและตัวตนของคุณในการเดินทางร่วมกับรถยนต์
2963
26 เม.ย. 2568, 12:57
การเช็กสภาพรถหลังจากเดินทางไกลเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้เรามั่นใจว่ารถของเราอยู่ในสภาพดีเพียงพอพร้อมใช้งาน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาและช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยการขับขี่ของเราในการเดินทางครั้งถัดไป วันนี้ทาง บริษัท ไอดีไดรฟ์ จำกัด แนะนำ 9 วิธีการตรวจสภาพรถและบำรุงรักษาระบบเบื้องต้น สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเช็กสภาพรถหลังจากเดินทางไกลมาแล้วกันค่ะ
1.ทำความสะอาดรถ
ล้างรถให้สะอาดทั้งภายนอกและภายใน เนื่องจากการเดินทางไกลอาจทำให้รถเสียหายจากสิ่งสกปรกหรือฝุ่น หิน ดินทราย ดังนั้นหากมีการเดินทางไกลอย่าลืมที่จะกลับมาล้างรถก่อนใช้งานกันต่อนะคะ
2.เช็กสภาพลมยาง
การเดินทางไกลอาจส่งผลให้ความดันลมยางลดลง จึงควรเช็กลมยาง เพื่อป้องกันการสึกหรอของยางและลดโอกาสเกิดอันตรายจากการขับด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้นยังควรตรวจสภาพยางว่าไม่มีอะไรเข้าไปทิ่ม อุด ตำ จนเป็นสาเหตุให้เกิดการรั่วซึมอย่างช้าๆ
หากเราพบว่าล้อใดล้อหนึ่งมีความดันลมน้อยผิดปกติ ให้เติมลมรถเป็นปกติ หรือตรวจเช็กเพื่อสันนิษฐานว่าล้อข้างนั้นอาจมีอะไรทิ่มเข้าไปอยู่ในเนื้อยาง เป็นเหตุให้เกิดการรั่วซึมอย่างช้าๆ ทางที่ดีควรปะยางหรือเปลี่ยนใหม่
3.เช็กน้ำมันเครื่อง
เช็คน้ำมันเครื่อง ควรเช็กระดับน้ำมันเครื่องเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระดับปกติ หากพบว่าน้ำมันเครื่องพร่องลงไปมากหรือต่ำกว่าระดับ MIN ควรตรวจเช็กว่ามีการรั่วซึมจุดใดหรือไม่ นอกจากนั้นควรเช็กสภาพน้ำมันเครื่องว่าไม่ดำจนเกินไป รวมถึงไม่มีเศษเขม่าเจือปนอยู่ หากพบควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่
4.เช็กระบบแสงไฟ
ตรวจสอบทุกระบบแสงไฟบนรถ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรก เพื่อให้แน่ใจว่าทุกระบบทำงานอย่างถูกต้อง
5.เช็กระบบเครื่องปรับอากาศ
ตรวจสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำความเย็นหรือร้อนได้อย่างปกติเพื่อให้ทำงานอย่างถูกต้องและมีการทำความสะอาดตลอด
6.เช็กช่วงล่างและระบบกันสะเทือน
การขับรถไปยังที่ที่ไม่คุ้นทาง อาจส่งผลให้ขับตกหลุมได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ศูนย์ล้อผิดเพี้ยนไปได้ ให้ลองเช็กเบื้องต้นด้วยการปล่อยพวงมาลัยขณะที่รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หากรถยังคงสามารถวิ่งไปตรงๆ ก็ไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ควรเช็กสภาพถนนว่ามีการลาดเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลให้รถแฉลบออกด้านข้างได้เช่นกัน
7.ไส้กรองอากาศ
เช็คไส้กรองอากาศ การเดินทางไปต่างจังหวัดอาจต้องขับผ่านถนนที่มีฝุ่นมากกว่าปกติ จึงควรเช็กไส้กรองอากาศว่ามีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่หรือไม่ หากมีก็ควรเป่าออก หรือเปลี่ยนไส้กรองใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
8.เช็กระบบเบรก
หลังจากเดินทางไกล ควรตรวจเช็กผ้าเบรกด้วย เนื่องจากผ้าเบรกอาจมีการสึกหรอ วิธีสังเกตคือ เวลาเบรกจะมีเสียงผิดปกติ หรือเวลาขับด้วยความเร็วสูงพวงมาลัยจะสั่น ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรนำรถไปให้ช่างตรวจเช็กโดยด่วน
9.เช็กระบบน้ำหล่อเย็น
ควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อหล่อเย็น ทั้งในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำและตรวจสอบการรั่วหรือรอยแตกบนท่อ ทางที่ดีน้ำหล่อเย็นไม่ควรลดระดับไปมาก เมื่อเทียบกับก่อนเดินทางไกล และควรเติมให้ได้ระดับพอดีก่อนใช้งานต่อไป
สิ่งสุดท้ายที่สำคัญมาก ๆ คือการเตรียมความพร้อมของร่างกายโดยเฉพาะผู้ขับขี่ ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง งดรับประทานยาที่ทำให้ง่วงซึมขณะขับรถ เพราะอาจเกิดการหลับในได้ ควรศึกษาเส้นทางต่าง ๆก่อนออกเดินทางให้พร้อม ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ก่อนออกเดินทางหรือขณะเดินทาง ต้องมีสติในการขับรถเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและเพื่อนร่วมทาง และหากมีความเหนื่อยล้าระหว่างเดินทางควรหยุดพักสายตาในจุดที่ปลอดภัยกันด้วยนะคะ
862
25 เม.ย. 2568, 18:15
หลายครั้งเราจะเจอปัญหามีสัตว์เลี้ยงเข้าไปในรถ วันนี้ บริษัท ไอดีไดรฟ์ จำกัด จะมาแนะนำการดูแล และช่วยเหลือน้องแมวในสถานการณ์แบบนี้ เราอาจต้องใช้เวลา และความอดทนในการช่วยเหลือน้องแมวให้ปลอดภัย อย่างสบายใจได้ มีวิธีไหนบ้างไปดูกันค่ะ
การมีน้องแมวติดอยู่ในรถอาจทำให้เกิดความกังวล เพราะบางครั้งมันอาจทำให้น้องแมวรู้สึกไม่สบาย หรืออาจทำให้เกิดการเสียหายในรถยนต์ รวมไปถึงอาจทำให้น้องแมวเสียชีวิตได้ ดังนั้นลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อช่วยให้ทรัพย์สินและน้องแมวปลอดภัยกันค่ะ
1.หาทางให้น้องแมวออก เปิดประตูหรือหน้าต่างเพื่อให้มีทางออกสำหรับน้องแมว ควรระวังอย่าให้น้องแมวหลุดออกไปในที่ที่ไม่ปลอดภัย เช่นถนนหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความบาดเจ็บหรือการหลงทาง
2.ใช้เสียงดังหรือเครื่องมือช่วย ลองใช้เสียงดังเพื่อดึงดูดความสนใจของน้องแมว หรือใช้ของเล่นที่มันชอบเพื่อดึงดูดความสนใจของมันให้กลับมาใกล้หน้าต่างหรือประตูที่เปิดออกไปนอก
3.ควบคุมสถานการณ์ หากน้องแมวยังไม่ออก ควรจัดการให้มีความสงบ อาจพยายามปิดประตูหรือหน้าต่างเพื่อป้องกันมันไม่ได้เข้าถึงส่วนหน้ารถที่อาจทำให้เกิดอันตรายได้
4.ขอความช่วยเหลือ หากน้องแมวยังคงติดอยู่และคุณไม่สามารถช่วยเหลือให้มันได้ ควรติดต่อช่างรถหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
5.ความระมัดระวังในการขับขี่ หลังจากน้องแมวได้ออกจากรถแล้ว ควรระวังและตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันไม่ได้ซ่อนตัวในที่นั่นอีก และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้องแมวไม่ได้กลบอยู่ใต้โซนที่อาจเป็นอันตรายในรถ เช่นเครื่องยนต์หรือพื้นที่ที่มีความร้อน
1028
26 เม.ย. 2568, 06:54
การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย เริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยวินัยของผู้ใช้รถ ไม่ใช่แค่ขับได้ แต่ต้องรู้หลักการให้ขับเป็นอย่างถูกต้อง 10 เทคนิคขับขี่อย่างปลอดภัย และที่สำคัญต้องตระหนัก ปลูกฝังจิตสำนึกในตัวผู้ขับขี่ มีสติ ไม่ประมาท คือสิ่งสำคัญที่สุดในการขับขี่อย่างปลอดภัยเพื่อตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทาง
1.สวมหมวกกันน็อก (Helmet): การสวมหมวกกันน็อกที่มีมาตรฐานและถูกต้องสำหรับการขับรถจักรยานยนต์สามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บหัวในกรณีเกิดอุบัติเหตุได้
2.สวมชุดป้องกัน (Protective Gear) : สวมเสื้อผ้าที่มีการป้องกันการกระแทก รวมถึงเสื้อและกางเกงที่ทำจากวัสดุที่ป้องกันการบาดเจ็บ และถุงมือหนา
3.การทรงตัว : การทรงตัวในขณะขับรถจักรยานยนต์มีความสำคัญ เพื่อลดโอกาสที่จะหลุดหรือบินออกจากรถในกรณีอุบัติเหตุ
4.การเช็กรถ : ก่อนทุกการขับรถจักรยานยนต์ หมั่นตรวจสอบรถของคุณอย่างเคร่งครัด รวมถึงระบบเบรก, ยาง , ไฟเลี้ยว, และระบบส่องสว่างให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
5.การทรงตัวและการดูสองครั้ง : ในขณะขับรถ, รักษาระยะห่างจากรถอื่น, ทรงตัวอย่างเพียงพอ, และเรียนรู้การดูสองครั้งโดยทราบสภาพทางหน้าและด้านข้างเสมอ
6. การทรงตัวในสภาพอากาศและถนน : การรักษาความระมัดระวังในสภาพอากาศที่แตกต่าง และในทางที่มีความลาดชัน, หลงเหลือขอบของถนน, หรือในสภาพทางหน้าที่แตกต่างกัน หากจำเป็นต้องขับลุยเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ให้ใช้เกียร์ต่ำ รักษาความเร็วให้คงที่ในระหว่างลุยน้ำ และ ไม่ควรขับลุยน้ำในระดับสูงเกินท่อไอเสีย
7.มองดูด้านหลังและให้สัญญาณไฟทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนช่องทาง : ขณะขับรถการรักษาความระมัดระวังใน การขับขี่รถจักรยานยนต์ การเลี้ยว การจอดรถ, การกลับรถ ส่วนใหญ่มักละเลยการเปิดไฟสัญญาณให้รถคันอื่นมองเห็นเราแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่นึกอยากออกก็ออก นึกอยากจอดก็จอด ควรมองสัญญาณไฟ และให้สัญญาณไฟทุกครั้ง
8.อย่าขับขี่รถจักรยานยนต์ สวนทางหรือข้ามช่องทางวิ่ง : อย่าขับขี่สวนทางจะทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยที่ไม่คาดฝันขึ้นได้เพราะเกิดจากความประมาท เพียงเพราะคิดว่าไม่เป็นไรหรอก หรือแค่ใกล้ๆเอง แป๊บเดียวเอง และที่สำคัญอย่าขับขี่รถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
9.การเรียนรู้ทักษะขับขี่: การเข้าร่วมคอร์สการอบรมขับขี่จักรยานยนต์และทดลองขับในที่ปลอดภัยจะช่วยเพิ่มทักษะขับขี่และความมั่นใจจะช่วยเสริมทักษะ ไม่ใช่แค่เราขับได้ แต่เราต้องขับให้เป็นและปลอดภัยด้วย
10. ไม่ดื่มและไม่ใช้สารเสพติด : การขับรถจักรยานยนต์ในสภาพมึนเมาหรือในสภาพที่มีผลกระทบจากสารเสพติดสามารถทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถขับรถจักรยานยนต์ไปในทางที่ปลอดภัยมากขึ้น
1177
26 เม.ย. 2568, 11:12