บทความและความรู้


เทคนิคขับรถขึ้นเขาสำหรับมือใหม่ – ขับอย่างมั่นใจ ปลอดภัยทุกโค้ง

ไอดี ไดร์ฟคิดว่าการขับรถขึ้นเขาอาจฟังดูน่ากลัวสำหรับมือใหม่ เพราะต้องเจอกับทางชัน โค้งหักศอก และแรงกดดันจากรถคันหลัง แต่ถ้าคุณเข้าใจหลักการและเตรียมตัวให้ดี การขับรถขึ้นเขาก็ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ  เตรียมตัวก่อนขึ้นเขา ตรวจสภาพรถ: ยาง เบรก น้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น ต้องพร้อมใช้งาน เช็กเกียร์: รถเกียร์ธรรมดา – ตรวจคลัตช์ / รถออโต้ – รู้ตำแหน่งเกียร์ L หรือ S พักผ่อนให้เพียงพอ: อย่าขับรถขึ้นเขาในขณะง่วงนอน เพราะต้องใช้สมาธิสูง  เทคนิคการขับขึ้นเขา  สำหรับรถเกียร์ธรรมดา: ใช้ เกียร์ต่ำ (เกียร์ 1 หรือ 2) เพื่อให้แรงบิดสูง เลือกจังหวะเปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธ์กับรอบเครื่อง หากต้องหยุดกลางทาง ใช้ เบรกมือ + คลัตช์ ช่วยออกตัว ไม่ให้รถไหล  สำหรับรถเกียร์ออโต้: เปลี่ยนมาใช้โหมด L หรือ S (หากมี Paddle Shift ใช้ได้) ไม่เหยียบคันเร่งแรงจนเครื่องลากรอบเกินไป ใช้เบรกมือถ้าต้องหยุดรถบนทางชัน  สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ห้ามเหยียบเบรกค้างตอนลงเขา: เบรกอาจไหม้ได้ ควรใช้เกียร์ต่ำช่วยหน่วงความเร็ว อย่าเร่งแซงบนโค้ง: อันตรายมาก! รอจังหวะทางตรงเท่านั้น ระวังโค้งอับสายตา: ลดความเร็ว เตรียมพร้อมเบรก  สรุปสำหรับมือใหม่ "ขับขึ้นเขาไม่ยาก ถ้ารู้จังหวะ ควบคุมรถอย่างมั่นใจ และไม่รีบร้อน" ขับช้าแต่ชัวร์ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าค่ะ   สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

129 16 มิ.ย. 2568, 05:39

ทำไมต้อง “รักษาระยะห่าง” บนถนน?

ไอดี ไดร์ฟ เชื่อว่าการขับรถบนถนนสาธารณะ ไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็ว แต่ยังเกี่ยวกับ “ความปลอดภัย” ของทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน หนึ่งในพฤติกรรมที่คนมักมองข้ามคือ การรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าและคันของเรา ทั้งที่นี่คือเรื่องพื้นฐานที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด  ระยะห่าง = เวลาตอบสนอง ทุกครั้งที่เกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น รถคันหน้าหยุดกะทันหัน คนหรือสัตว์ตัดหน้า ถนนลื่นหรือมีสิ่งกีดขวาง คุณต้องใช้เวลา “คิด” และ “ตัดสินใจ” ก่อนที่จะเหยียบเบรก ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาราวๆ 1–1.5 วินาที หากคุณขับจี้คันหน้าเกินไป ระยะเบรกอาจไม่พอ ทำให้เกิดการชนแม้คุณจะเหยียบเบรกทัน  หลัก 3 วินาที (Three-Second Rule) กฎง่ายๆ ที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยคือ "เว้นระยะห่างจากคันหน้าอย่างน้อย 3 วินาที" วิธีคือ: เลือกวัตถุข้างทาง เช่น ป้ายไฟหรือเสาไฟ นับ "หนึ่งพันหนึ่ง... หนึ่งพันสอง... หนึ่งพันสาม" หลังจากรถคันหน้าเคลื่อนผ่าน รถของคุณไม่ควรผ่านวัตถุนั้นจนกว่าจะนับครบ 3 วินาที  ถ้าขับกลางคืน, ฝนตก หรือถนนลื่น ควรเพิ่มเป็น 4–6 วินาที  ตัวอย่างอุบัติเหตุที่พบบ่อยจากการไม่เว้นระยะ รถติดๆ กันแล้วคันหน้าเบรกกะทันหัน → ชนท้ายเป็นพวง (โดมิโน) รถพ่วงจอดกระทันหัน แต่คันหลังไม่มีเวลาหยุด → ชนเสียชีวิต บางกรณีคนขับหลับในหรือใช้มือถือ → ไม่มีการเบรกเลยก่อนชน  เว้นระยะ ไม่ได้แปลว่า “ขับช้า” หรือ “ไม่รีบ” หลายคนเข้าใจผิดว่าการเว้นระยะคือขับช้าเกินไป จนกลัวถูกแทรก แต่ความจริงแล้วคุณยังสามารถขับในความเร็วปกติได้ เพียงแค่มีพื้นที่พอให้เบรกและหลบหลีกได้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน  สรุป การเว้นระยะห่าง คือการ “ให้เวลา” กับตัวเองในการตัดสินใจ และยังเป็นการให้ “พื้นที่ความปลอดภัย” กับทุกคนบนท้องถนน ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ ป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน "ถ้าคุณเว้นระยะมากพอ อุบัติเหตุส่วนใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องเกิด" สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

170 16 มิ.ย. 2568, 04:01

5 นิสัยการขับขี่ที่ช่วยประหยัดน้ำมันในยุคน้ำมันแพง

ในช่วงที่ผ่านมา ไอดี ไดร์ฟ เห็นราคาน้ำมันขึ้นเอาขึ้นเอา การขับรถอย่างประหยัดไม่ใช่แค่ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า แต่ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนด้วย นี่คือ 5 นิสัยง่าย ๆ ที่ควรเริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้: 1. ขับรถด้วยความเร็วคงที่ การเหยียบคันเร่งแล้วเบรกบ่อย ๆ จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันกว่าปกติ ควรรักษาความเร็วให้คงที่ โดยเฉพาะในการขับทางไกล เช่น ขับไม่เกิน 90-100 กม./ชม. บนถนนหลวง 2. หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องแรง การเร่งเครื่องแบบกระทันหันใช้น้ำมันมากกว่าการเร่งค่อย ๆ อย่างน้อยพยายามใช้เท้าเหยียบคันเร่งแบบนุ่มนวลที่สุด 3. วางแผนเส้นทางก่อนออกเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติด หรือทางที่ต้องหยุดสตาร์ทรถบ่อย ๆ ช่วยลดเวลาเดินทางและลดการใช้น้ำมันโดยไม่จำเป็น 4. เช็กลมยางอยู่เสมอ ลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐานจะเพิ่มแรงต้านในการหมุน ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและกินน้ำมันมากขึ้น ควรตรวจเช็กลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง 5. ไม่บรรทุกของเกินความจำเป็น ของหนักๆ ในรถคือภาระที่กินน้ำมันเพิ่มโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่จำเป็นควรนำออกจากรถให้เบาที่สุดเท่าที่ทำได้  แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ แต่เมื่อทำสม่ำเสมอ จะเห็นผลได้จริงในระยะยาว สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

148 16 มิ.ย. 2568, 15:01

“มารยาทจราจรเล็ก ๆ ที่ช่วยเลี่ยงอุบัติเหตุใหญ่บนถนน”

ไอดี ไดร์ฟ จะมาเล่าเรื่องมารยาทบนท้องถนน เราไม่ได้เดินทางเพียงลำพัง แต่กำลังเดินร่วมกับชีวิตอีกนับพัน มารยาทจราจรไม่ใช่แค่เรื่องระเบียบ แต่คือการเคารพชีวิตของผู้อื่นและตัวเราเอง 1. เปิดไฟเลี้ยว = เคารพคนรอบข้าง ทำไมแค่เปิดไฟเลี้ยวก็ช่วยลดอุบัติเหตุได้ ตัวอย่างสถานการณ์จริง เช่น การเปลี่ยนเลนกระทันหัน 2. หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย = ให้โอกาสชีวิต ความสำคัญของการหยุดรถเมื่อเห็นคนรอข้าม ตัวเลขสถิติอุบัติเหตุบริเวณทางม้าลายในไทย 3. ไม่ปาด ไม่แทรก ไม่เร่ง = ลดความเสี่ยง ความใจร้อนมักนำมาซึ่งความเสียใจ ปาดแค่ 5 วินาที อาจเสียเวลาเป็นชั่วโมงถ้าเกิดเหตุ 4. ขับช้าเลนซ้าย แซงเลนขวา = ระเบียบพื้นฐานที่ช่วยให้ถนนไหลลื่น การขับขี่ตามหลักจะช่วยลดการเบรกกระทันหันและอุบัติเหตุแบบ chain crash 5. มีน้ำใจนักขับ = พื้นฐานของสังคมน่าอยู่ ยิ้มให้กันเมื่อมีคนให้ทาง / ขอบคุณด้วยไฟผ่าหมาก ฯลฯ สิ่งเล็กน้อยที่สร้างบรรยากาศบนถนนให้ดีขึ้น “มารยาท” อาจไม่ได้มีกฎหมายบังคับเหมือนสัญญาณไฟจราจร แต่มันคือสิ่งที่ควรมีในใจทุกคน เพราะมันช่วยให้ถนนปลอดภัย และชีวิตร่วมทางง่ายขึ้น   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

204 16 มิ.ย. 2568, 17:45

ใบขับขี่มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทใช้อย่างไร?

ไอดีไดรฟ์คาดว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า "ใบขับขี่" มีหลายประเภท และแต่ละประเภทมีข้อจำกัดที่ต่างกัน ประเภทใบขับขี่ ใช้สำหรับ หมายเหตุ ใบขับขี่ส่วนบุคคลชนิดชั่วคราว (2 ปี) รถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์ สำหรับผู้เริ่มต้น ใช้ขับรถทั่วไป ใบขับขี่ส่วนบุคคลชนิด 5 ปี รถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์ ต่ออายุจากใบชั่วคราว เมื่อครบ 2 ปี ใบขับขี่สาธารณะ รถแท็กซี่, รถบรรทุก, รถตู้โดยสาร ต้องผ่านการตรวจร่างกายและอบรมเฉพาะทาง ใบขับขี่ประเภทอื่นๆ รถแทรกเตอร์, รถพ่วง, รถขนาดพิเศษ ใช้ในงานเฉพาะ ต้องมีความรู้เพิ่มเติม   การใช้ใบขับขี่ผิดประเภทมีโทษปรับ และอาจทำให้ประกันไม่คุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ขอบคุณภาพจาก : https://www.roojai.com สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

210 16 มิ.ย. 2568, 12:47


Scroll to Top