วันนี้ ไอดี ไดร์ฟ จะมาแนะนำเคล็ดลับการเอาตัวรอดบนท้องถนนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งคนเดินเท้า รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ หรือแม้แต่สภาพอากาศ การมีสติและเทคนิคเล็กๆ จะช่วยให้คุณเอาตัวรอดได้แม้เป็นมือใหม่ก็ตาม
1. อย่าขับเร็วเกินไป
ความเร็วที่มากเกินไปทำให้คุณควบคุมสถานการณ์ได้น้อยลง โดยเฉพาะเมื่อเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน
2. ใช้กระจกมองรอบตัวอย่างสม่ำเสมอ
การมองกระจกบ่อยๆ จะช่วยให้คุณรู้ว่ามีรถหรือมอเตอร์ไซค์อยู่รอบตัวหรือไม่ ลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยวกะทันหัน
3. ใช้สัญญาณไฟอย่างถูกต้อง
ไม่ว่าจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน อย่าลืมเปิดไฟเลี้ยวให้ผู้อื่นรู้เสมอ
4. หลีกเลี่ยงการใช้มือถือหรือสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ
แม้เพียงแค่ 2 วินาทีที่ละสายตา อาจหมายถึงอุบัติเหตุที่คุณไม่อยากให้เกิด
5. ขับช้าลงเมื่อฝนตกหรือถนนลื่น
พื้นถนนที่เปียกลื่นเพิ่มระยะเบรกและลดการยึดเกาะของล้อ ต้องขับอย่างระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
6. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า
เผื่อระยะเบรกและเวลาในการตัดสินใจ จะช่วยให้คุณมีเวลาหลีกเลี่ยงการชนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
7. มีสติ และไม่ใจร้อน
สติคือสิ่งสำคัญที่สุดในการขับรถ อย่าปล่อยให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล
150
16 มิ.ย. 2568, 04:04
สำหรับมือใหม่ที่กำลังวางแผนจะทำใบขับขี่ บอกเลยว่าขั้นตอนไม่ยากอย่างที่คิด
วันนี้ ไอดี ไดร์ฟ จะมาสรุปให้แบบเข้าใจง่ายๆ ว่า "ถ้าอยากมีใบขับขี่" ต้องทำอะไรบ้าง
1. เตรียมเอกสารให้พร้อม
ก่อนจะไปถึงขนส่ง อย่าลืมเตรียมเอกสารสำคัญเหล่านี้:
บัตรประชาชนตัวจริง + สำเนา
ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
ใบผ่านการอบรม (ถ้ามี)
2. ลงอบรมภาคทฤษฎี
สำหรับคนทำใบขับขี่ใหม่ ต้องอบรมเกี่ยวกับกฎจราจร การขับขี่อย่างปลอดภัย และมารยาทบนท้องถนน
ใช้เวลาอบรมประมาณ 4-5 ชั่วโมง แล้วจะได้รับใบรับรองการอบรม
3. ทดสอบ 3 ด่านสำคัญ
ทดสอบสายตา (มองเห็นสี / กะระยะ / ทดสอบปฏิกิริยา)
สอบข้อเขียน (ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มีประมาณ 50 ข้อ ต้องผ่าน 45 ข้อขึ้นไป)
สอบขับรถจริง (ขับในสนามตามท่าที่กำหนด เช่น ถอยหลังเข้าซอง, ขับในทางแคบ, เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา)
4. ได้รับใบขับขี่ (แบบชั่วคราว)
ถ้าสอบผ่านทุกขั้นตอนแล้ว ก็รับใบขับขี่ชั่วคราว (2 ปี) ไปใช้ได้เลย!
อยากทำใบขับขี่แบบไม่เครียด? มาหาเราสิ!
ที่ ไอดี ไดร์ฟ เรามีบริการอบรม + ฝึกขับ + พาไปสอบ ครบจบในที่เดียว
ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล เราพร้อมซัพพอร์ตทุกขั้นตอน!
ขอบคุณภาพจาก : biraspecial
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
195
16 มิ.ย. 2568, 10:20
วันนี้ไอดีไดร์ฟจะพามาไขข้อสงสัย
หลายคนอาจคิดว่า "อายุเท่านี้แล้วจะเรียนขับรถไหวเหรอ?"
แต่ในความเป็นจริง "การขับรถ" คือทักษะสำคัญที่เรียนได้ทุกช่วงวัย!
ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มโต อยากใช้รถไปทำงาน หรืออยากขับไปจ่ายตลาดตอนเกษียณ ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ
มาดูกันว่าแต่ละวัยเหมาะกับการเรียนขับรถแบบไหนบ้าง?
วัยรุ่น (อายุ 18-25 ปี): วางรากฐานให้แน่น
เหมาะกับการเรียนแบบละเอียด ช้าแต่ชัวร์
เน้นสร้างวินัยและมารยาทในการขับขี่
ฝึกในสนามจำลองที่ปลอดภัย เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนเจอถนนจริง
“ขับเร็วไม่เท่ ขับเป็น ขับปลอดภัยเท่กว่าเยอะ!”
วัยทำงาน (อายุ 26-50 ปี): ขับเป็นเร็ว ใช้ได้จริง
เหมาะกับคอร์สที่ยืดหยุ่นเวลา เช่น เรียนวันหยุดหรือช่วงเย็น
เน้นการขับในสถานการณ์จริง เช่น ขับในเมือง รถติด ขึ้นทางด่วน
ได้ฝึกวางแผนเส้นทาง และขับรถเพื่อชีวิตประจำวันที่คล่องตัว
“มีใบขับขี่ = มีอิสระในการใช้ชีวิต”
วัยเกษียณ (50 ปีขึ้นไป): ขับด้วยความมั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง
ครูสอนจะเน้นการสื่อสารที่ชัดเจน ใจเย็น เป็นกันเอง
ฝึกทักษะการใช้สายตา การกะระยะ การควบคุมรถแบบผ่อนแรง
เพิ่มการฝึกสมาธิ และสร้างความมั่นใจในการขับขี่ระยะใกล้
“อายุมากไม่ใช่อุปสรรค ถ้ามีครูดีและใจพร้อม!”
ข้อดีของการเรียนขับรถกับโรงเรียนมืออาชีพ
มีสนามฝึกเฉพาะทาง สะดวก ปลอดภัย
ได้รับความรู้และเทคนิคจากครูที่มีประสบการณ์
ฝึกได้ตามจังหวะของแต่ละคน ไม่เร่ง ไม่กดดัน
พร้อมสอบจริงทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ
ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยไหน ก็สามารถเริ่มต้นเรียนขับรถได้เสมอ
การมีทักษะขับขี่ ไม่ใช่แค่ขับเป็น แต่ต้อง ขับอย่างมั่นใจ มีวินัย และปลอดภัยต่อทุกคนบนถนน
หากคุณกำลังลังเล ลองก้าวแรกมาที่โรงเรียนสอนขับรถที่เข้าใจคุณทุกช่วงวัย... แล้วคุณจะรู้ว่า “ขับได้” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย
ขอบคุณภาพ : regain
สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
152
16 มิ.ย. 2568, 16:20
เซฟไว้ก่อนเดินทาง
เบอร์สายด่วน แจ้งเหตุ ฉุกเฉิน
หน่วยงานช่วยเหลือด้านการเดินทาง
1584 : ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก
1356 : สอบถาม ร้องเรียน แจ้งเหตุ ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม
1348 : สอบถามเส้นทางเดินรถ ขสมก.
อุบัติเหตุบนท้องถนน
1137 : แจ้งอุบัติเหตุ
1543 : รถเสีย อุบัติเหตุบนทางด่วน การทางพิเศษ
1193 : ตำรวจทางหลวง
1586 : กรมทางหลวง
1586 กด 7 : มอเตอร์เวย์สาย 7 และ 9
1146 : กรมทางหลวงชนบท
แจ้งเหตุฉุกเฉิน
191 : แจ้งตำรวจ เหตุฉุกเฉิน เหตุร้าย
199 : ไฟไหม้ ค้นคนหาย สัตว์มีพิษ
1192 : รถหาย ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์
เจ็บป่วยฉุกเฉิน
1669 : เจ็บป่วยฉุกเฉิน ทั่วประเทศ
1646 : หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพฯ
1554 : หน่วยกู้ชีพ วชิรพยาบาล
ขอขอบคุณภาพจาก : safedrivedlt
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
181
16 มิ.ย. 2568, 14:50
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะช่วงกลางวัน การขับขี่มอเตอร์ไซค์จึงกลายเป็นความท้าทายไม่น้อย ทั้งจากสภาพอากาศที่แผดเผา และความเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากขับขี่ในระยะไกลโดยไม่เตรียมตัวให้พร้อม
วันนี้ ไอดี ไดร์ฟ เรามี 5 เทคนิคขี่มอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัยในหน้าร้อน มาฝากกันครับ
ตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง
ก่อนสตาร์ทรถ อย่าลืมตรวจสอบจุดสำคัญ เช่น:
• ลมยาง และสภาพยาง
• น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเบรก
• ระบบเบรก และไฟส่องสว่าง
เพื่อให้แน่ใจว่ารถพร้อมใช้งาน และลดโอกาสเกิดปัญหาระหว่างทาง
สวมใส่อุปกรณ์ให้ครบและเหมาะกับสภาพอากาศ
อากาศร้อน ไม่ใช่ข้ออ้างในการใส่น้อย!
• หมวกกันน็อกเต็มใบ ป้องกันแดด ลม และฝุ่น
• เสื้อแจ็กเก็ต/เสื้อการ์ด ป้องกันร่างกายจากความร้อนและการกระแทก
• เสื้อ-กางเกงแบบระบายอากาศได้ดี ใส่สบาย ไม่อึดอัด
• ถุงมือ แว่นกันแดด และผ้าโม่ง ก็ช่วยป้องกันแดดและฝุ่นละอองได้อย่างดี
พกอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้เสมอ
โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล เช่น:
• ชุดปะยางฉุกเฉิน
• คีม ไขควง ประแจ
• ไฟฉาย หรือแบตสำรอง
แม้จะไม่ได้ใช้บ่อย แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็น จะรู้เลยว่ามีไว้ “อุ่นใจกว่า”
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อุณหภูมิที่สูงทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมาก
พักทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อดื่มน้ำ เติมความสดชื่น
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนระหว่างขับขี่
รู้จักพัก เมื่อร่างกายไม่ไหว
ถ้าเริ่มรู้สึกเวียนหัว มึน หรืออ่อนเพลีย อย่าฝืนขับต่อ
หาที่ร่มจอดพักทันที และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรโทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉิน
เพราะ สุขภาพสำคัญที่สุด
สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
166
16 มิ.ย. 2568, 13:36
